Featured News
Posts List
Posts Slider
Health
-
โลหิตจาง มีอาการอย่างไร
โลหิตจาง หรือที่เรียกันว่าโรคซีด เกิดจากภาวะที่มีปริมาณเม็ดเลือดแดงในเลือดน้อยกว่าปกติ ทำให้อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย อาการแสดงออกต่างกัน หลายคนตรวจเจอจากการตรวจสุขภาพประจำปี โดยที่ไม่มีอาการแสดงมาก่อน ภาวะโลหิตจางเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ หากสงสัยว่าเป็นหรือตรวจพบควรไปพบแพย์เพื่อรักษา
โลหิตจาง คืออะไร
ภาวะโลหิตจาง (Anemia) หรือภาวะซีด เป็นภาวะที่มีปริมาณเม็ดเลือดแดงในเลือดน้อยกว่าปกติ ทำให้ผลิตออกซิเจนได้น้อยกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายมีอาการผิดปกติ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ภาวะนี้พบได้บ่อยในบุคคลทั่วไป โดยอาการแสดงอาจมากหรือน้อยแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับเม็ดเลือดแดงในร่างกายและความสามารถในการปรับตัวของแต่ละคน โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดเกณฑ์วินิจฉัยภาวะโลหิตจางจากปริมาณฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ในเลือดเป็นตัวเลข ดังนี้
- ต่ำกว่า 12 g/dL ในผู้หญิง
- ต่ำกว่า 13 g/dL ในผู้ชาย
- ต่ำกว่า 11 g/dL ในผู้หญิงตั้งครรภ์
ทั้งนี้ภาวะโลหิตจางไม่ถือเป็นโรค แต่เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้จากหลายโรค หลายภาวะ เนื่องจากในร่างกายของเรามีปัจจัยหลายอย่างในการช่วยกันควบคุมการสร้างเม็ดเลือดแดงให้ออกมาในระบบหมุนเวียนโลหิตในปริมาณที่สมดุลเพียงพอ
อาการของภาวะโลหิตจาง
โดยปกติแล้วในร่างกายของคนเรา จะมีฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงที่เป็นตัวนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ในผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจางจึงมีอาการผิดปกติจากการที่เนื้อเยื่อต่างๆ ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ อาการส่วนมากคือ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย รู้สึกเหนื่อยเวลาออกแรง วูบ หน้ามืด เวียนศีรษะ ง่วงนอนมากกว่าปกติ หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น เจ็บหน้าอก เล็บเปราะง่าย ผมร่วง ผิวแห้ง ตัวซีด เป็นต้น
ถ้าโลหิตจางมากๆ คือระดับฮีโมโกลบินต่ำกว่า 5 g/dL อาจจะกระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจวาย (Heart failure) ได้ เนื่องจากหัวใจจะทำงานหนักขึ้นในการปั๊มเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย จนสุดท้ายหัวใจทำงานไม่ไหว ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมปอดตามมาได้ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรง ทั้งนี้ขึ้นกับความเฉียบพลันในการเกิดภาวะด้วย ในผู้ป่วยที่เกิดภาวะโลหิตจางอย่างเฉียบพลัน เช่น มีการสูญเสียเลือดในปริมาณมากในเวลาอันสั้น จะมีอาการชัดเจนและรุนแรงกว่าคนที่มีภาวะโลหิตจางเรื้อรังมาเป็นระยะเวลานานๆ เนื่องจากในกลุ่มที่เกิดแบบเรื้อรัง ร่างกายจะปรับสภาพจนทำให้ผู้ป่วยไม่ทราบว่าตนมีภาวะโลหิตจางอยู่
สาเหตุของการเกิดภาวะโลหิตจาง
เกิดได้จากหลายสาเหตุ โดย สามารถแบ่งออกได้เป็นสาเหตุหลักๆ ได้ดังนี้
1) การสร้างเม็ดเลือดแดงน้อยลง ซึ่งมีปัจจัยมาจาก
- การขาดสารอาหาร ได้รับสารอาหารที่ไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะการขาดธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 หรือกรดโฟลิค
- ภาวะโรคเรื้อรัง โรคเรื้อรังบางชนิดหรือการรักษาโรคเรื้อรัง อาจส่งผลกระทบต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง เช่น โรคมะเร็ง โรคข้ออักเสบ รูมาตอยด์ โรคไตวายเรื้อรัง โรค HIV โรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
- การตั้งครรภ์ ภาวะโลหิตจางสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะช่วงอายุครรภ์ 6 เดือนแรก เนื่องจากการขาดสารอาหารประเภทธาตุเหล็กและกรดโฟลิก รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในเลือด
- โรคเกี่ยวกับไขกระดูก เช่น ไขกระดูกฝ่อ มะเร็งในไขกระดูก การติดในไขกระดูก เป็นต้น
2) การทำลายเม็ดเลือดแดงมากกว่าปกติในร่างกาย เป็นผลมาจากการติดเชื้อ หรือโรคในกลุ่มที่เป็นสาเหตุให้เม็ดเลือดแดงแตกง่ายกว่าปกติ ซึ่งผู้ป่วยมักจะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง หรืออาการดีซ่าน ร่วมด้วย เช่น
- โรคธาลัสซีเมีย (Thalassemias) เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่พบบ่อย
- รูปร่างเม็ดเลือดแดงผิดปกติ (Sickle Cell Anemia)
- การติดเชื้อบางชนิด เช่น มาลาเรีย คลอสติเดียม มัยโค พลาสมา เป็นต้น
3) การสูญเสียเลือดอย่างฉับพลัน เช่น การเกิดอุบัติเหตุ การตกเลือด ภาวะเลือดหลังคลอดบุตร หรืออาจค่อยๆ เสียเลือดเรื้อรัง ซึ่งผู้ป่วยที่เสียเลือดเรื้อรัง ก็จะมักจะทำให้มีการขาดธาตุเหล็กตามมาด้วย การสูญเสียเลือดเรื้อรัง เช่น สียเลือดทางประจำเดือนในผู้หญิง เสียเลือดในทางเดินอาหารในผู้ชายและผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
อาการที่เสี่ยงเป็นโลหิตจาง
- เบื่ออาหาร
- เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
- ตัวซีดเหลือง อย่างเห็นได้ชัด
- หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน
- หายใจลำบากขณะออกแรง
- มึนงง วิงเวียนศีรษะ
- เจ็บหน้าอก ใจสั่น
- หากมีอาการรุนแรงอาจทำให้หัวใจล้มเหลว
- หากมีอาการเรื้อรัง อาจพบอาการมุมปากเปื่อย เล็บมีลักษณะอ่อนแอและแบน หรือเล็บเงยขึ้นมีแอ่งตรงกลางคล้ายช้อน
ไม่อยากเป็นโลหิตจางควรปฏิบัติตัวอย่างไร
- เลือกรับประทานอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก วิตามิน และสารอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ตับหมู นม ไข่ เลือดหมู ธัญพืช โดยเฉพาะในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ ทารก และวัยรุ่น
- รับประทานวิตามินเสริมโดยขอคำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ในผู้ที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอจากการรับประทานอาหาร
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และอุดมไปด้วยโฟลิค และธาตุเหล็ก เช่น ปลา เนื้อแดงไร้ไขมัน ไข่ ถั่ว และผักใบเขียว เพื่อป้องกันการเกิดภาวะโลหิตจาง และอาจรับประทานวิตามินเสริม โฟลิค และธาตุเหล็ก เพื่อช่วยรักษาระดับเซลล์เม็ดเลือดแดงให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเพื่อแนะนำการรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมใดๆ ก่อนเสมอ
- ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็น ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงการส่งต่อทางพันธุกรรม
ยาบำรุงเลือดเหมาะสำหรับภาวะโลหิตจาง
การรับประทานยาบำรุงเลือด มีข้อบ่งชี้ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในทางการแพทย์จะใช้สำหรับป้องกันและรักษา นอกจากนี้ยาบำรุงเลือดยังสามารถใช้ในผู้ที่ต้องการบำรุงร่างกายโดยรวมให้แข็งแรงสมบรูณ์มากขึ้น
1. ผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง(Anemia) สาเหตุนี้จะพบมากที่สุด ซึ่งเกิดจากร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงลดลง เนื่องจากร่างกายขาดธาตุเหล็ก, วิตามินบี 12, กรดโฟลิค ในการผลิตเม็ดเลือดให้สมบรูณ์
2. ผู้หญิงที่เตรียมตั้งครรภ์ หรือตั้งครรถ์ เพื่อช่วยสร้างเนื้อเยื่อของลูกในครรภ์ สร้างเซลล์ประสาทสมอง ลดความพิการแต่กำเนิด
3. ผู้ที่บริจาคเลือด หรือผู้ที่เกิดการอุบัติเหตุ การกินยาบำรุงเลือดจะเสริมธาตุเหล็ก และช่วยให้ร่างกายกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดให้สมบูรณ์และแข็งแรงมากขึ้น
4. ผู้ที่ประจำเดือนมาไม่ปกติอาจมามากหรือมาน้อย เช่นวัยเจริญพันธุ์หรือวัยทอง
5. ผู้ที่มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย วิงเวียน ตัวซีด ไม่มีแรง
6. ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น ไตวายเรื้อรัง โรคเกี่ยวกับไขกระดูก หรือโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น ภาวะของโรคเหล่านี้ส่งผลต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงได้น้อยกว่าปกติประโยชน์ของยาบำรุงเลือด
1. ช่วยให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดใหม่ได้สมบูรณ์แข็งแรง บำรุงโลหิต
2. ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย อ่อนล่าในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และสูงอายุหรือคนทั่วไป
4. ช่วยบำรุงร่างกายและส่งเสริมการสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
5. ช่วยลดภาวะซีดจากผู้ที่เป็นโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กหากสงสัยว่ามีอาการของภาวะโลหิตจาง ควรไปปรึกษาพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจสุขภาพร่างกาย และตรวจวินิจฉัยว่าอาการดังกล่าว ในบางครั้งอาจตรวจพบโรคร้ายแรงที่แฝงอยู่ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่จะได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ สำหรับการรักษาภาวะโลหิตจาง โดยทั่วไปการรักษานั้นจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ และสาเหตุของอาการ ดังนั้นควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการ และรับการรักษาที่สาเหตุนั้นๆ
เรื่องเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- เครียดลงกระเพาะ โรคที่สามารถป้องกันการเกิดขึ้นได้
- ต้อหิน เป็นแล้วไม่รักษาอาจสูญเสียการมองเห็นได้
- โรคเชื้อราที่เล็บ มีอาการอย่างไร และสามารถรักษาให้หายหรือไม่
- อาการวูบหมดสติ ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ควรหมั่นตรวจสุขภาพ
ที่มาของบทความ
- https://www.sikarin.com
- https://www.phyathai.com
- https://www.megawecare.co.th
- https://www.istockphoto.com
- https://health.kapook.com
ติดตามเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพได้ที่ gamehall369.com
สนับสนุนโดย ufabet369
Economy
-
ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารความเสี่ยงเป็นที่ต้องการสูง
ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารความเสี่ยงเป็นที่ต้องการสูง จู่ๆ ทุกคนก็อยากคุยกับ Gianluca Pescaroli
ดร. Pescaroli เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการจัดการความเสี่ยง
และโดยเฉพาะการบริหารอย่างยิ่ง – ในวิธีที่ธุรกิจและองค์กรอื่นๆ สามารถวางแผนและรับมือกับผลกระทบของวิกฤตได้ดีที่สุด
นับตั้งแต่การระบาดใหญ่ของโควิด-19 เขาเป็นคนที่เป็นที่ต้องการอย่างมาก และตอนนี้ด้วยความขัดแย้งในยูเครนที่สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจโลก การบริหาร ของเขาจึงเป็นที่ต้องการมากยิ่งขึ้น
“เราอยู่ในโลกที่เชื่อมต่อถึงกัน” ดร. เปสคาโรลีกล่าว “ทุกบริษัท (ในตะวันตก) จะได้รับผลกระทบจากยูเครนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ใช่แค่บริษัทที่ทำธุรกิจในรัสเซีย”
วิทยากรด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจและความยืดหยุ่นขององค์กร
ที่สถาบันความเสี่ยงและภัยพิบัติของมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน ดร. เปสคาโรลีกล่าวว่าไวรัสโคโรนาเปิดเผยอย่างน่าเศร้าว่ามีหลายบริษัทมากเกินไปที่ไม่มีแผน B พวกเขาไม่มีเหตุฉุกเฉินสำหรับวิธีการจัดการที่ดีที่สุด กับเหตุการณ์ดังกล่าว
Gianluca Pescaroli กำลังให้คำแนะนำแก่สหประชาชาติเกี่ยวกับแนวปฏิบัติในการจัดการความเสี่ยงที่ดีที่สุด
เขาเสริมว่าทุกบริษัทจำเป็นต้องมีแผนสำรองหรือกู้คืนระบบดังกล่าว “คุณต้องมีความคิดที่ชัดเจนมากเกี่ยวกับกระบวนการและบริการที่สำคัญของคุณ” เขากล่าว“สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญ โดยไม่ขึ้นอยู่กับว่าเป็นโรคระบาด หรือยูเครน หรือการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ยิ่งคุณเตรียมตัวดีเท่าไร คุณก็จะยิ่งปรับตัวและตอบสนองได้ดีขึ้นเท่านั้น”
ไม่ใช่แค่ Dr Pescaroli เท่านั้นที่มีงานยุ่งมากขึ้นในทุกวันนี้ แต่เป็นช่วงเวลาที่มีกิจกรรมที่เข้มข้นสำหรับภาคส่วนการจัดการความเสี่ยงทั่วโลกทั้งหมด รายงานฉบับหนึ่งเมื่อปีที่แล้วกล่าวว่าในขณะที่อุตสาหกรรมมีมูลค่า 7.4 พันล้านดอลลาร์ (5.6 พันล้านปอนด์) ในปี 2562 แต่คาดว่าจะสูงถึง 28.9 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2570 และตัวเลขดังกล่าวคำนวณก่อนที่วิกฤตการณ์ในยูเครนจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์
ราคาพลังงานและอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นในขณะนี้
บริษัทต่างๆ ในภาคธุรกิจเหล่านั้นต้องเผชิญกับปัญหา การบริหาร ด้านราคาและอุปทานที่เฉพาะเจาะจงซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องสามารถจัดการได้ อย่างไรก็ตาม ดร.เปสคาโรลีกล่าวว่าทุกบริษัทควรจัดทำรายการสิ่งที่ปฏิบัติได้เพื่อตรวจสอบและขีดฆ่าในกรณีเกิดวิกฤต และที่สำคัญกว่านั้น – ก่อนรายการหนึ่ง
“ตัวอย่างเช่น ผู้จัดการระดับสูงของคุณทุกคนยังมีโทรศัพท์บ้านอยู่ที่บ้านหรือไม่ เพราะถ้าไม่มี และวิกฤตครั้งต่อไปคือการล่มสลายของเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ พวกเขาก็ไม่มีโทรศัพท์ใช้”
เขาอธิบายว่าบริษัทต่างๆ จำเป็นต้องมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองเพื่อจ่ายพลังงานหากเครือข่ายล่ม และพวกเขาจำเป็นต้องฝึกอบรมพนักงานมากกว่าหนึ่งคนเพื่อให้สามารถทำงานได้ ในกรณีที่พนักงานไม่อยู่ในระหว่างลางาน หากแหล่งจ่ายไฟหลักถูกตัด
บริษัทขนาดใหญ่ที่กำลังคิดไปข้างหน้า
กำลังแต่งตั้งผู้จัดการความเสี่ยงในระดับคณะกรรมการ บุคคลนี้จะเป็นคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการทำให้บริษัทสามารถอยู่รอดได้ในวิกฤตครั้งใหญ่ครั้งต่อไป พวกเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด และแม้กระทั่งการเล่นเกมในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อดูว่าบริษัทจะตอบสนองอย่างไร
ภาคส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจที่เพิ่มการวางแผนความเสี่ยงอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาคืออุตสาหกรรมการธนาคาร ความกังวลที่เพิ่มขึ้นนี้เกี่ยวกับผลกระทบของเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในอนาคตหลังจากวิกฤตการเงินโลกในปี 2551
ย้อนกลับไปในตอนนั้น ธนาคารต้องได้รับการประกันตัวจากผู้เสียภาษีมูลค่าหลายพันล้านปอนด์ แทบจะไม่น่าแปลกใจเลยที่รัฐบาลต้องการให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก
บุคคลหนึ่งที่ธนาคารในสหราชอาณาจักรต้องสร้างความประทับใจเหนือสิ่งอื่นใด คือผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ Sarah Breeden เธอเป็นผู้อำนวยการบริหารด้านกลยุทธ์ความมั่นคงทางการเงินและความเสี่ยงที่ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ และเธอใช้เวลาของเธอในการกลั่นแกล้งหัวหน้าธนาคาร
Ms Breedon รับผิดชอบการทดสอบความเครียดของธนาคารในประเทศเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถทนต่อแรงกระแทกได้ ธนาคารต้องพิสูจน์ว่ามีเงินสำรองเพียงพอที่จะให้บริการทางการเงินต่อไปไม่ว่าสถานการณ์จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
“ความหวังคือ [การทดสอบนี้] หมายความว่าเมื่อเกิดการช็อกครั้งต่อไป พวกเขามั่นใจว่ามีสิ่งที่จำเป็นอยู่ในกระป๋องอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถทำงานได้” Ms Breedon กล่าว
หากธนาคารใดไม่ผ่านการทดสอบอย่างใดอย่างหนึ่ง ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษสามารถยืนยันว่าจะเพิ่มเงิน ปรับปรุงการบริหารความเสี่ยง หรือเผชิญกับการกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้น ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ธนาคารอาจถูกห้ามไม่ให้จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นและให้โบนัสแก่พนักงาน
แต่ Breedon เสริมว่าขั้นตอนการทดสอบนี้เกี่ยวข้องมากกว่าการตรวจสอบว่าธนาคารมีเงินสำรองเพียงพอ การทดสอบบางอย่างเกี่ยวกับปัญหาทางเทคนิคและวิธีรับมือกับปัญหาเหล่านั้นให้ดีที่สุด เช่น ระบบการชำระเงินออฟไลน์
อย่างไรก็ตาม การทดสอบความเสี่ยงที่เข้มงวดและการกำกับดูแลของรัฐประเภทนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในทุกส่วนของเศรษฐกิจ ตัวอย่างเช่น ไม่มีใครตรวจสอบได้ว่าซูเปอร์มาร์เก็ตในสหราชอาณาจักรสามารถทนต่อภาวะขาดแคลนข้าวสาลีทั่วโลก หรืออุตสาหกรรมรถยนต์จะมีความหวังกับการล่มสลายของอินเทอร์เน็ตได้อย่างไร
ดร.เอลิซาเบธ สตีเฟนส์ช่วยธุรกิจในการตัดสินใจเรื่องการจัดการความเสี่ยงที่สำคัญ ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าของ Geopolitical Risk Advisory ในลอนดอน เธอและเพื่อนร่วมงานให้คำแนะนำแก่บริษัทเกี่ยวกับอันตรายของการทำธุรกิจในบางประเทศและดินแดน
เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.สตีเฟนส์ใช้เวลามากมายในการถามหัวหน้าบริษัทตะวันตกที่ทำธุรกิจในรัสเซียด้วยคำถามที่ยากๆ
“มีสองประเด็นสำหรับบริษัทดังกล่าวที่ต้องพิจารณา” เธอกล่าว “ประการแรก พวกเขาฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศหรือไม่ และประการที่สอง ความเสี่ยงด้านชื่อเสียงในการทำธุรกิจในรัสเซียต่อไป
“หากบริษัทต่างๆ สามารถหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรและไม่ถอนตัวออกจากรัสเซีย พวกเขาก็จะเสี่ยง ‘ตาย’ ในศาลที่รับฟังความเห็นสาธารณะ เราไม่เคยบอกกับบริษัทต่างๆ ว่า ‘ทำสิ่งนี้ อย่าทำอย่างนั้น’ แต่เราจะบอกว่า ‘สิ่งเหล่านี้คือ ความเสี่ยงที่คุณต้องพิจารณา'”
สำหรับบริษัทที่ไม่มีการดำเนินงานในรัสเซีย
ดร. สตีเฟนส์กล่าวว่า ตอนนี้เธอเห็นว่าหลายบริษัทใช้เวลาจำนวนมากในการพยายามทำความเข้าใจห่วงโซ่อุปทานของตนอย่างแท้จริง เธอเสริมว่าธุรกิจต่างๆ ต้องถามตัวเองว่า “ใครเป็นคนจัดหาซัพพลายเออร์ให้” และอื่นๆ เพราะอย่างที่เธออธิบาย “ต้องใช้ชิ้นส่วนถึง 30,000 ชิ้นในการผลิตรถยนต์ แต่มีเพียงชิ้นส่วนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้ผลิตรถยนต์”
ขณะนี้ Dr Pescaroli กำลังหารือเกี่ยวกับประเด็นประเภทนี้ที่สหประชาชาติ ซึ่งเขาได้ร่วมเขียนรายงานสำหรับสำนักงานสหประชาชาติเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติร่วมกับ Dr. Igor Linkov จากศูนย์วิจัยและพัฒนาวิศวกรของกองทัพสหรัฐฯ
“เรากำลังดูการทดสอบความเครียดและจุดร่วมของความล้มเหลว” ดร. เปสคาโรลีกล่าว
ดร. Pescaroli กล่าวเสริมว่าการคิดเกี่ยวกับวิธีจัดการกับความเสี่ยงในอนาคตไม่ควรจำกัดเฉพาะรัฐบาลและธุรกิจ แต่จะต้องเป็นสิ่งที่บุคคลและครัวเรือนพิจารณาด้วย
เพื่อแสดงจุดยืนของเขา เขาหยิบวิทยุแบบไขลานขนาดเล็กออกจากชั้นวางของในสำนักงาน เขาซื้อมันหลังจากพบว่าในกรณีไฟฟ้าดับทั่วลอนดอน การสื่อสารในกรณีฉุกเฉินยังคงทำผ่านวิทยุ
เขาตระหนักว่าถ้าคุณไม่มีวิทยุที่ใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก คุณก็ไม่มีวิทยุเลย และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตัวอย่างง่ายๆ ของการจัดการความเสี่ยงคืออะไร และคุณผู้อ่านที่รัก ฉันก็ออกไปซื้อเหมือนกัน
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเว็บของเรา
แฝด 7 จากครอบครัว Mccaughey ที่รอดชีวิตกลุ่มแรกของโลก
นิวคาสเซิ่ล จบท็อปโฟร์หลังเสมอกับเลสเตอร์
โนวัค ยอโควิช สามารถเล่นที่ US Open เมื่อข้อตกลงวัคซีนสิ้นสุด
ยาหลอน ประสาท ของหมอผีแห่งแอนดีส
Lee Hae-in คว้าแชมป์รายการสั้นด้วยคะแนนส่วนตัวที่ดีที่สุด
ขอบคุณรูปภาพจาก pexels.com
แหล่งที่มา https://www.bbc.com/news/business
สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ gamehall369.com